ระบบกรองน้ำใช้ในบ้าน ติดตั้งถังไฟเบอร์และหัววาล์วเองก็ได้ ไม่ง้อช่าง
จากบทความก่อนหน้านี้ ผมได้กล่าวถึงประโยชน์ของระบบกรองน้ำใช้เพื่อการอุปโภคตามบ้านเรือนทั่วไป ที่ปัจจุบันควรที่จะมีระบบดังกล่าวติดตั้งไว้ในทุกๆ บ้าน บทความนี้จึงจะกล่าวถึงการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่หากศึกษาสักนิด ก็สามารถติดตั้งเองได้ที่บ้านครับ มาเริ่มกันเล้ยยยยยย
- ใส่สเตรนเนอร์ล่าง (เจดีย์) ทากาว เสียบเข้ากับท่อกลางขนาด 6 หุนที่ให้มากับถังกรองไฟเบอร์
- ใส่สารกรองลงไปความสูงจากพื้นถังเล็กน้อย พอทีจะวางและประคองท่อกลางกับสเตรนเนอร์ล่างได้ จากนั้นใส่ท่อที่ประกอบแล้วเข้าในถัง กะระยะท่อให้เหมาะสม ถ้าท่อเกินออกมาจากปากถัง ให้ตัดให้ต่ำกว่าปากถังไฟเบอร์เล็กน้อย
- พยายามประคองและจัดให้ตำแหน่งท่อให้อยู่ตรงกลาง และควรนำถุงพลาสติกปิดปลายท่อเอาไว้ก่อนเพื่อป้องกันสารกรองหลุดรอดเข้าในท่อ
- จากนั้นเทสารกรองที่เหลือ ให้เกือบเต็มถัง (ใส่สารกรองประมาณ 70% - 80% ของปริมาตรถังไฟเบอร์รวม) *อาจจะใช้กรวยที่มีปลายขนาด 2" เพื่อช่วยในการเทสารกรองลงถังได้ง่ายขึื้น
- จากนั้นให้ใส่ สเตรนเนอร์บน (บัว) เข้าไปในท่ออีกด้าน (นำถุงพลาสติกที่ปิดปลายท่อในขั้นตอนก่อนหน้าออกก่อนนะครับ) แล้วใส่ปลายท่อผ่านโอริงยาง จนสุดหัววาวล์ จากนั้นให้ล็อคตัวเสตรนเนอร์บน กับ หัววาวล์เข้าด้วยกัน (ล็อคด้วยเขี้ยวล็อค) ***ห้ามทากาว***
- ใส่ซีลยางสีดำ(ใหญ่) เข้ากับเกลียวที่หัววาล์วให้แน่น และหมุนหัววาล์วเข้ากับเกลียวของถังกรองไฟเบอร์ให้แน่นเป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหรับขั้นตอนการประกอบ (ซีลยางสีน้ำเงิน 3 อันที่ให้มาในกล่องสำหรับใส่ที่รูน้ำเข้า-ออก และท่อระบายน้ำทิ้ง ขนาด 1")
วิธีการใช้งานหัววาล์วชนิดหัวโยก
สำหรับการใช้งานครั้งแรก- ให้หมุนวาล์วไปยังตำแหน่ง BackWash เพื่อล้างสารกรองให้พร้อมใช้งาน (โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที หรือจนกว่าน้ำที่ท่อระบายน้ำทิ้งใส)
- หมุนวาล์วไปตำแหน่ง Fast Rinse เพื่อปรับสารกรองให้แน่นพร้อมใช้งาน
- หมุนวาล์วไปตำแหน่ง Filter สำหรับเริ่มการใช้งาน
*ควรหมั่น Backwash ตามขั้นตอน 1-3 อยู่เสมอเพื่อประสิทธิภาพที่ดีของสารกรอง
กรณีเป็นถังกรองสารเรซิ่น จะต้องใช้หัววาล์วแบบพวงมาลัย ตามรูปด้านล่าง
ซีลยางและอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของวาล์วชนิดหัวพวงมาลัยมีดังนี้
ใส่ซีลยางที่หัววาล์ว และรูน้ำเข้า-ออก
หัวต่อท่อระบายน้ำทิ้ง (ใส่ซีลยางเข้าไปในหัวต่อ) หมุนตามเกลียวในตำแหน่งท่อระบายน้ำทิ้งของวาล์ว จากนั้นนำสายยางขนาด 4 หุนต่อเข้ากับปลายข้อต่อเพื่อระบายน้ำทิ้ง
*อาจจะใช้ข้อต่อ pvc ขนาด 4 หุนต่อแทนหัวต่อนี้ก็ได้นะครับ
ประกอบสายดูดน้ำสำหรับการล้างสารกรอง
ใส่ซีลยางสีแดงลงในรูท่อดูดน้ำเกลือที่หัววาล์วตามรูป
ใส่ซีลยางที่หัววาล์ว และรูน้ำเข้า-ออก
หัวต่อท่อระบายน้ำทิ้ง (ใส่ซีลยางเข้าไปในหัวต่อ) หมุนตามเกลียวในตำแหน่งท่อระบายน้ำทิ้งของวาล์ว จากนั้นนำสายยางขนาด 4 หุนต่อเข้ากับปลายข้อต่อเพื่อระบายน้ำทิ้ง
*อาจจะใช้ข้อต่อ pvc ขนาด 4 หุนต่อแทนหัวต่อนี้ก็ได้นะครับ
อุปกรณ์สำหรับประกอบสายดูดน้ำเกลือเพื่อฟื้นฟูสารกรองเรซิ่น
ประกอบสายดูดน้ำสำหรับการล้างสารกรอง
เสียบปลั๊กหัวต่อเข้ากับสาย pe ขนาด 3 หุน
ประกอบสายเข้ากับหัววาล์วในตำแหน่งท่อดูดน้ำเกลือตามรูป และหมุนให้แน่น
การใช้งานครั้งแรกควรล้างสารกรองเรซิ่นให้สะอาดก่อน
3. หมุนพวงมาลัยไปตำแหน่ง Service เพื่อเริ่มใช้งานตามปกติ
- หมุนพวงมาลัยไปตำแหน่ง BackWash จนน้ำทิ้งที่ท่อระบายน้ำใส
2. หมุนพวงมาลัยไปตำแหน่ง Fast Rinse เพื่อปรับสารสภาพสารกรองให้แน่นและพร้อมใช้งาน
วิธีการฟื้นฟูสารเรซิ่นด้วยน้ำเกลือ
เนื่องจากสารกรองเรซิ่น ทำหน้าที่ในการดักจับหินปูนที่ปนเปื้อนมากับน้ำ หินปูนดังกล่าวจะพอกที่ตัวเรซิ่นไปเรื่อยๆ จนประสิทธิภาพในการดักจับหินปูนของสารกรองเรซิ่นลดลง เราจึงจำเป็นต้องล้างหินปูนออกจากสารเรซิ่น เพื่อให้สารกรองเรซิ่นของเรากลับมามีประสิทธิภาพในการดักจับหินปูน แต่หินปูนดังกล่าวไม่สามารถล้างออกด้วยน้ำเปล่า จำเป็นที่จะต้องใช้น้ำละลายเกลือเพื่อทำให้หินปูนที่เกาะตัวเรซิ่นหลุดออก
ปริมาณเกลือที่เหมาะสมในการใช้ล้างเรซิ่น จะอ้างอิงตามน้ำหนักของเรซิ่นที่ใช้ในถังกรองนั้นๆ โดยสารกรองเรซิ่น 1 กก. จะต้องใช้ปริมาณเกลือ 150 กรัม ตัวอย่างเช่น เราใช้สารกรองเรซิ่น 1 กระสอบ (25 ลิตร) มีน้ำหนักประมาณ 20 กก. จึงต้องใช้ปริมาณเกลือทั้งสิ้น 150 x 20 = 3000 กรับ หรือ 3 กก.
โดยเราจะต้องทำให้เป็นสารละลายน้ำเกลือ โดยผสมน้ำ (่ด้วยการหมุนหัววาล์วไปตำแหน่ง Refill) ให้มีประมาณ 10 เท่าของปริมาณเกลือ ซึ่งจากตัวอย่าง จะต้องผสมน้ำ (Refill) ทั้งสิ้น 30 ลิตร (3 x 10) เป็นต้น
ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนการใช้หัววาล์วพวงมาลัยในการฟื้นฟูสารเรซิ่น
1. หมุนวาล์วไปตำแหน่ง ฺBrine Refill เพื่อเติมน้ำเข้าถังเก็บน้ำเกลือ (เติมเกลือรอไว้ในถังเกลือ) ตามปริมาณน้ำ : เกลือ ที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
2. หมุนวาล์วไปตำแหน่ง Brine Slow เพื่อทำการดูดสารละลายน้ำเกลือเข้าถังกรองจนหมด (อาจทำการกวนน้ำให้เกลือละลาย)
* แช่น้ำเกลือทิ้งไว้ในถังกรองประมาณ 25 นาที
เมื่อแช่สารกรองเรซิ่นด้วยน้ำเกลือครบกำหนด 25 นาทีแล้ว ให้ทำการล้างเกลือออกจากสารกรอง ตามขั้นตอนเช่นเดียวกับการใช้งานครั้งแรกคือ BackWash -> Fast Rinse -> Service
**หมั่นฟื้นฟูสารกรองเรซิ่นอยู่เป็นประจำเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของสารกรองนะครับ
สนใจสินค้าอุปกรณ์กรองน้ำ และเครื่องกรองน้ำอุตสาหกรรม ราคาส่งกรุณาติดต่อ
LineID: @pptcorps
www.pptcorps.com
LineID: @pptcorps
www.pptcorps.com